9. การใช้คำสั่ง input() เพื่อรับข้อมูลเข้า
คำสั่ง input()
Input หมายถึง สิ่งที่ได้รับเข้ามา ซึ่งในการเขียนโปรแกรม Input จะหมายถึงการที่โปรแกรมนั้นจะรับค่าอะไรมาซักอย่าง เพื่อที่จะให้นำไปใช้ในขณะที่โปรแกรมกำลังทำงาน
โดยในภาษา Python นั้นจะใช้คำสั่ง input()
เพื่อทำการรับ input เข้ามาสู่ระบบ
ตัวอย่างการใช้งานคำสั่ง input()
input()
เพียงเรียกใช้คำสั่ง input()
เมื่อ Run โปรแกรมผ่านคอมไพเลอร์ โปรแกรมก็จะอนุญาตให้ผู้ใช้งานป้อนข้อมูลเข้ามาสู่โปรแกรมได้
*การป้อนค่าในคอมไพเลอร์ ทำได้โดยการพิมพ์ลงไปในส่วนที่แสดงผลโปรแกรม และยืนยันข้อมูลด้วยปุ่ม Enter
แต่เดี๋ยวก่อน!!
การใช้คำสั่ง input()
ดังตัวอย่างนั้น ไม่สามารถนำไปใช้งานจริงได้ เพราะข้อมูลที่รับเข้ามายังไม่มีที่สำหรับจัดเก็บ
จึงต้องมีสร้างตัวแปรขึ้นมา เพื่อใช้จัดเก็บข้อมูลที่รับเข้ามาผ่านคำสั่ง input
x = input()
ตามโค้ดตัวอย่างด้านบนนั้น ข้อมูลที่ได้รับผ่านคำสั่ง input()
จะถูกนำไปจัดเก็บที่ตัวแปร x
คำสั่ง input()
ในการใช้งานจริง
เมื่อเขียนโปรแกรม ที่ต้องรับข้อมูลเข้าจากคนที่ใช้โปรแกรม ผู้เขียนโปรแกรม จะต้อง สื่อสาร กับ ผู้ใช้งานโปรแกรมด้วย ว่าต้องการให้ผู้ใช้งาน ป้อนข้อมูลอะไรเข้ามา
ซึ่งคำสั่ง input()
สามารถใช้เขียนข้อความเพื่อสื่อสารได้เลย ด้วยการเขียนข้อความในช่อง () ของคำสั่ง input()
สถานการณ์ตัวอย่าง
โจอี้ ต้องการสร้างโปรแกรมสำหรับ นำชื่อและนามสกุลของผู้ใช้งานมาต่อกัน (สร้างทำไมหว่า?? 🤔)
โดยเขาต้องการให้ผู้ใช้งานโปรแกรม ป้อนเป็นข้อความเข้ามาสองค่า ค่าแรกเป็นชื่อของผู้ใช้งาน ค่าที่สองเป็นนามสกุล
ซึ่งถ้าโจอี้ ไม่สื่อสารอะไรกับผู้ใช้งานโปรแกรมเลย ผู้ใช้ก็ไม่สามารถเข้าใจความต้องการของโปรแกรมได้ ว่าต้องการให้เขาใช้งานอย่างไร ผู้ใช้อาจจะป้อนชื่อแมวเข้ามาก็ได้
ดังนั้นโจอี้ จึงเขียนโปรแกรม โดยข้อความผ่านคำสั่ง input()
ดังนี้
print("This program will help you combine your first and last name together")
x = input("Please enter your first name :> ")
y = input("Please enter your last name :> ")
print("Your name is",x,y)
อธิบาย Source Code
บรรทัดที่ 1 : ใช้คำสั่ง print()
พิมพ์ข้อความบอกผู้ใช้งาน ว่า นี่คือโปรแกรมช่วยคุณเอาชื่อและนามสกุลมาต่อกันให้ เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้าใจจุดประสงค์ของโปรแกรม
บรรทัดที่ 3 : ใช้คำสั่ง input()
บอกกับผู้ใช้งานว่า กรุณาป้อนชื่อจริง จากนั้นนำข้อมูลเข้าไปเก็บไว้ที่ตัวแปร x
บรรทัดที่ 4 : ใช้คำสั่ง input()
บอกกับผู้ใช้งานว่า กรุณาป้อนนามสกุล จากนั้นนำข้อมูลเข้าไปเก็บไว้ที่ตัวแปร y
บรรทัดที่ 6 : ใช้คำสั่ง
พิมพ์ข้อความว่า ชื่อของคุณคือ ตามด้วยผลบวกของตัวแปร x และ print()
y
เพียงเท่านี้โปรแกรมก็จะสามารถทำงานได้ตามที่โจอี้คาดหวังไว้ ดังนั้น ในการเขียนโปรแกรม จงอย่าลืมที่จะสื่อสารกับผู้ใช้โปรแกรม
*ตรงส่วนของ :> ที่อยู่ในข้อความที่สื่อสารกับผู้ใช้นั้น เติมเข้ามาเพื่อให้ตอนที่ผู้ใช้งานป้อนข้อมูล ข้อมูลที่ป้อนจะไม่ติดกับข้อความของโปรแกรม เป็นการเพิ่มความสวยงามให้โปรแกรม ซึ่งในจุดนี้สามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น >> , :: , >: แล้วแต่ผู้พัฒนาโปรแกรมจะดีไซน์
การทดลองประจำบทเรียนที่ 9
1.ทดลองนำ โปรแกรมของโจอี้ ในตัวอย่าง ไปรันในคอมไพเลอร์ และทดลองป้อนข้อมูลดู
2. ทดลองเปลี่ยนข้อความในคำสั่ง Input()
และสังเกตผลลัพธ์
3. ทดลองปรับโปรแกรมของโจอี้ ให้มีการป้อนข้อมูล ชื่อกลาง และแสดงผล ในรูปแบบ Your name is ชื่อจริง ชื่อกลาง นามสกุล
*ชื่อกลาง ในภาษาอังกฤษ ใช้คำว่า middle name